เมนู

กรรมฐานที่เป็นข้าศึกต่ออกุศลวิตก 3


อนึ่ง ในอารมณ์กรรมฐาน 38 ที่ทรงจำแนกไว้ในพระบาลี แม้กรรม
ฐานหนึ่ง ชื่อว่า ไม่เป็นข้าศึกต่ออกุศลวิตก 3 มีกามวิตกเป็นต้น หามีไม่.
ก็ปฐมฌานในอสุภะทั้งหลายทั้งหมดทีเดียว เป็นข้าศึกต่อกามวิตกโดยส่วนเดียว
ก่อน ฌานหมวด 3 หมวด 4 (ปัญจกนัย) ในเมตตาภาวนาเป็นปฏิปักษ์ต่อ
พยาบาทวิตก ฌานหมวด 3 และหมวด 4 ในกรุณาเป็นปฏิปักษ์ต่อวิหิงสา-
วิตก เพราะฉะนั้น เมื่อพระโยคาวจรกระทำบริกรรมในอสุภะเข้าฌานสังกัป-
ปะ (ความดำริ) ที่สัมปยุตด้วยฌานในขณะแห่งสมาบัติ ก็จะเกิดเป็นข้าศึกต่อ
กามวิตก ด้วยสามารถแห่งวิกขัมภนะ เมื่อพระโยคาวจรทำฌานให้เป็นบาท
เริ่มตั้งวิปัสสนา สังกัปปะอันสัมปยุตด้วยวิปัสสนาในขณะแห่งวิปัสสนาก็ย่อม
เกิดเป็นข้าศึกต่อกามวิตกด้วยสามารถแห่งองค์ของวิปัสสนา (ตทังคปหาน) นั้น
เมื่อเธอขวนขวายวิปัสสนาบรรลุมรรคแล้ว สังกัปปะที่สัมปยุตด้วยมรรคใน
ขณะแห่งมรรคก็เกิดขึ้นเป็นข้าศึกต่อกามวิตก ด้วยสามารถแห่งสมุจเฉทปหาน
สังกัปปะ (ความดำริ) อันเกิดขึ้นอย่างนี้ พึงทราบว่า ตรัสเรียกว่า เนกขัมม-
สังกัปปะแล.
อนึ่ง บัณฑิตพึงประกอบคำทั้งปวงว่า "พระโยคาวจรทำบริกรรมใน
เมตตาภาวนา ท่าบริกรรมในกรุณาภาวนาเข้าฌาน" เป็นต้น โดยนัยก่อน
นั่นแหละ พึงทราบว่า สังกัปปะอันเกิดขึ้นแล้วอย่างนี้ ตรัสเรียกว่า อัพยาปาท-
สังกัปปะ และอวิหิงสาสังกัปปะ สังกัปปะเหล่านี้มีเนกขัมมสังกัปปะเป็นต้นด้วย
อาการอย่างนี้ ชื่อว่า มีอารมณ์ต่าง ๆ ในส่วนเบื้องต้น เพราะความที่สังกัปปะ
เหล่านั้นเกิดขึ้นมีอารมณ์ต่างกันด้วยอำนาจแห่งวิปัสสนาและฌาน แต่ในขณะ

แห่งมรรค กุศลสังกัปปะ (ความดำริที่เป็นกุศล) ย่อมเกิดขึ้นเป็นอันเดียวกัน
ทำองค์แห่งมรรคให้บริบูรณ์ เพราะตัดทางดำเนินแห่งอกุศลสังกัปปะที่เกิดขึ้น
ในฐานะ 3 เหล่านี้ ด้วยสามารถแห่งการไม่เกิดขึ้นได้สำเร็จ.
นี้ ชื่อว่า สัมมาสังกัปปะ.

ว่าด้วยนิเทศแห่งสัมมาวาจา

(บาลีข้อ 165)
พึงทราบวินิจฉัยแม้ในนิเทศแห่งสัมมาวาจา ต่อไป
อนึ่ง เพราะบุคคลย่อมงดเว้นมุสาวาทด้วยจิตดวงหนึ่ง ย่อมงดเว้น
ปิสุณาวาจาเป็นต้นด้วยจิตดวงหนึ่ง ฉะนั้น เจตนาเป็นเครื่องงดเว้นทั้ง 4
เหล่านั้น จึงต่าง ๆ กันในส่วนเบื้องต้น แต่ในขณะแห่งมรรค ย่อมเกิดเจตนา
งดเว้นเป็นกุศลกล่าวคือสัมมาวาจาอย่าวเดียวเท่านั้นอันยังองค์มรรคให้บริบูรณ์
เพราะตัดทางดำเนินแห่งเจตนาความเป็นผู้ทุศีลในอกุศล 4 อย่าง กล่าวคือมิจ-
ฉาวาจาด้วยสามารถไม่เกิดขึ้นได้สำเร็จ.
นี้ ชื่อว่า สัมมาวาจา.

ว่าด้วยนิเทศสัมมากัมมันตะ


พึงทราบวินิจฉัยแม้ในนิเทศแห่งสัมมากัมมันตะ ต่อไป
อนึ่ง เพราะบุคคลย่อมงดเว้นปาณาติบาตจิตดวงหนึ่ง ย่อมงดเว้น
อทินนาทานด้วยจิตดวงหนึ่ง ย่อมงดเว้นกาเมสุมิจฉาจารด้วยจิตดวงหนึ่ง ฉะนั้น
เจตนาเป็นเครื่องงดเว้น ทั้ง 3 เหล่านี้ จึงต่าง ๆ กันในส่วนเบื้องต้น แต่ใน
ขณะแห่งมรรค ย่อมเกิดกุศลเจตนาเป็นเครื่องงดเว้น กล่าวคือสัมมากัมมันตะ